รักษามะเร็งแบบผสมผสานทุกข์ก็คลายใจก็สุข - มองคุณภาพชีวิต
โรคมะเร็งยังคงเป็นโรคที่พบบ่อย เป็นหนึ่งในสามของโรคที่อยู่ระดับแถวหน้า คือโรคหัวใจและหลอดเลือดพร้อมอุบัติเหตุ จะพบเป็นข่าวอยู่เสมอ จึงเป็นโรคที่ผู้คนจะต้องระมัดระวัง ไม่ประมาท วันหนึ่งอาจประสบกับตัวเราได้ ยิ่งผู้สูงอายุโรคมะเร็งนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดได้มากกว่าวัยอื่น
โรคมะเร็ง เมื่อเกิดขึ้นกับใคร ความคิดแบบเดิม ๆ ยังติดฝังอยู่ มักจะว่าเป็นคนโชคร้ายทันที ทำไมต้องมาเกิดกับเราในเมื่อทำแต่ความดี สร้างบุญกุศลมาตลอด บางท่านก็คิดเลยต่อไป ชีวิตเหมือนถูกประหาร เศร้าโศกเสียใจมาก อนาคตดูจะต้องดับไป ไปจนถึงกลัวความตายขึ้นมา
หากเรามองในแง่ปรัชญาหรือแนวคิดด้านบวกบ้าง ไม่เป็นมะเร็งก็ต้องตายเหมือนกัน บางครั้งอยู่ ๆ เกิดเป็นลมไม่รู้สึกตัวขึ้นมา หรือเกิดอุบัติเหตุ ตายก่อนโรคมะเร็งก็ได้ ส่วนใหญ่มะเร็งรักษาไม่หายขาด แต่ก็มีมะเร็งที่อยู่ได้ยาวนานถ้าดูแลตัวเองให้ดี มะเร็งทำให้ทุกข์ทรมานกายใจ ถ้ารู้รักษาตัวให้ดี บางครั้งอาจทุกข์แต่กาย ใจเป็นสุขได้ หรือคิดหมดอาลัยในชีวิตแล้ว คิดให้ถูกคิดใหม่ชีวิตที่เหลืออยู่จะเป็นชีวิตที่มีค่า มีความหมายมาก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมได้มีโอกาสไปร่วมประชุมกับคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาฯ สมาชิกราว 200 ท่าน มาร่วมประชุมที่โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส คณบดี ดร.ยุพิน อังสุโรจน์ นำทีมงานมาพร้อม ในหัวข้อ ทำอย่างไรจะเอาชนะมะเร็งได้ หนึ่งในผู้บรรยายคือ เจ้าอาวาสวัดคำประมง พระอาจารย์ปพนพัชร จิรธัมโม พร้อมคณะมาบรรยายให้ฟัง เป็นเรื่องน่าสนใจมาก
วัดคำประมง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร มีชื่อเสียงทำเป็นที่พักรักษาคนไข้มะเร็งระยะสุดท้ายมา 8 ปี แต่ละวันมีคนป่วยราว 30-40 คน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หลวงตา เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกเจ้าอาวาส อดีตเป็นวิศวะจาก ม.เกษตร เคยเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก รักษาทางแผนปัจจุบันมาระยะหนึ่ง ต่อมามาหายด้วยสมุนไพร เห็นความสำคัญของสมุนไพร จึงจัดวัดให้เป็นสถานที่รักษามะเร็งเรื่อยมา
พระอาจารย์ปพนพัชร บอกว่าคนไข้ที่มาที่นี่จะผ่านการรักษาจากโรงพยาบาลมาแล้ว ส่วนใหญ่จะผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัดมาเรียบร้อย เมื่อมาอยู่ที่นี่ จึงเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต ได้ให้หลักถึงการดูแลว่า ให้ทุกข์แต่กายแต่ใจไม่ทุกข์ด้วย จิตใจจะเปี่ยมด้วยความสุข ถ่ายทอดรอยยิ้มให้เห็นอยู่บนใบหน้า โดยการบำบัดด้วยสมุนไพร ธรรมะในสิ่งแวดล้อมของธรรมชาติที่ร่มรื่น ดอกไม้ใบไม้รอบตัว มีจิตอาสาให้กำลังใจอยู่รายรอบ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก
หลวงตาได้ยกตัวอย่างคนไข้ ตัวอย่าง ชินานันท์ ศิริสวัสดิ์ วัย 50 ปี เป็นมะเร็งตับ บอกว่าอยากมาหาความหมายของชีวิตด้วยการเรียนธรรมะและบำบัดด้วยสมุนไพร จนพบว่าใจไม่ได้ป่วยตามกายเลย 6 เดือนต่อมาเป็นวันสุดท้ายของเธอ เธอสงบนิ่งจากไปด้วยใจที่เป็นสุข มีเสบียงด้วยบุญกุศลที่ทำไว้ติดตัวไปพร้อม เหลือไว้ด้วยใบหน้าที่แฝงรอยยิ้มให้กับจิตอาสาที่ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความอาลัยทุกคน
นพ.ศิริโรจน์ กิตติสารพงษ์ แพทย์ผู้เสียสละมาช่วยวัดคำประมงแต่เริ่มแรก สนใจงานด้านนี้มาก ได้บรรยายเรื่องนี้จากประสบการณ์ที่ได้ดูแลคนไข้มาตลอด สิ่งที่จะพิชิตมะเร็งให้ถอยอ่อนกำลังลง เราจะต้องสร้างความต้านทานในตัวให้แข็งแกร่ง ด้วยเรื่องอาหารที่ควรจะเป็นด่างเข้าไว้ ผักเป็นจุดหลัก ลดโปรตีนจากเนื้อ ไข่แดง นม ไขมัน ของหวานลง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมจิตใจให้ไม่เครียด ไม่กังวล ด้วยธรรมะ พร้อมหมั่นทำบุญกุศลไว้ แล้วชีวิตจะยืดออกไปอีกยาวนาน
ดร.สุรีพร ธนศิลป์ ได้บรรยายถึงบทบาทของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่บำบัดแบบผสมผสาน พร้อมสอนชี่กงให้กับผู้ฟังทั้งหมดออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน น่าสนใจดี คุณวิไลลักษ์ ตันติตระกูล พยาบาล รพ.ราชบุรี ได้คุยถึงชีวิตจิตอาสาที่ไปช่วยเหลือคนไข้ที่วัดคำประมง พร้อมทำปริญญาเอกไปด้วย ทำให้รู้ถึงชีวิตคนไข้และผู้ช่วยดูแลครบถ้วน งานประชุมครั้งนี้จบลงด้วยได้รับความรู้และความบันเทิงจากหมอลำ คนไข้มะเร็งเต้านมที่สุขภาพดีมาเซิ้งให้ชมประทับใจ
การรักษามะเร็งแบบผสมผสาน จากคนไข้ที่ได้ผ่าตัดและให้การรักษาจนครบทุกอย่างแล้วมาต่อด้วยแพทย์ทางเลือก สมุนไพร ธรรมะ ฯลฯ
ในสิ่งแวดล้อมที่มีผู้ช่วยดูแลต่อให้ ทำให้ป่วยแต่กายแต่ใจไม่ป่วยตาม น่าสนใจดี ข้อมูลเพิ่มเติม คุณวิไลลักษ์ ตันติตระกูล
โทร. 08-9202-9559.
นพ.สุวิทย์ เกียรติเสว